จะว่าไปแล้วการมี “ขนดก” นี่ก็ดีนะ ถ้ามันดกใน “ที่
ๆ ควร” เช่น ที่คิ้ว ที่ตา ที่ศีรษะ
แต่ถ้าไปดก “ที่อื่น” แล้วละก็ อาจทำให้สาว ๆ ขาดความมั่นใจในตัวเองจนกลายเป็น
“ปมด้อย” ที่ต้องคอย “ซ่อนเร้น หรือ กำจัด” ด้วยวิธีต่าง ๆ
เรามี สูตรทำแว็กซ์น้ำตาล หรือ Sugar Wax แสนง่าย และที่ไม่มีสารเคมีผสม
มาฝาก..... เพราะตัวเองเป็น “สาวห้าว” ที่มี
“ขนขาดก+ดำ” เส้นหญ่าย และยาววววมว๊าก ทั้งที่ก็ไม่เคยถอน หรือโกน
หรือทำอะไรกับมันทั้งสิ้นแต่มันก็ดกเอ๊าดกเอา...แถม “หยักศก” อีกต่างหาก…..ตอนเป็นนักศึกษาก็ไม่เดือดร้อนเพราะเจ้าขนขานี่
เพราะใส่กางเกงตลอด แต่พอเรียนจบ
ปัญหาเกิดเลย....อ๊าย...อาย...เพราะต้องใส่กระโปรงไปทำงานทุกวัน วิธีแก้ปัญหา คือเสียเงินซื้อถุงน่องมาสวม.....การใส่ถุงน่องทำให้เรียวขาดูสวยงามนวลเนียนขึ้นมาเป็นกอง
(ขาแบบโต๊ะสนุก..ไม่เกี่ยวนะ) ถ้าไม่ตั้งอกตั้งใจดูอย่างจริง ๆ จัง ๆ ก็ไม่มีทางเห็นขนขาเราหร้อก..และนับว่าสวรรค์ยังปรานีที่ไม่ใส่
“หนวดเขียวครึ้ม” เหนือริมฝีปากมาให้ด้วยเหมือนสาว ๆ บางคน แต่จะว่าไป จริง ๆ
ถ้าเปลี่ยนขนจากที่ขามาขึ้นที่แขนแทน นี่น่าดีกว่า
เพราะเราชอบผู้หญิงที่มีขนแขนยาว ๆ สลวย ๆ น่าลูบไล้อ่ะ....
ครั้นพออายุอานามย่างกรายเข้าเลขสามสิบแก่
ๆ ตำแหน่งหน้าที่การงานก็ “แก่” ตามไปด้วย ดังนั้นจึงได้อภิสิทธิ์ไม่ต้องสวมชุดยูนิฟอร์มที่บริษัท
จัดให้ทุกปี แถมยังใส่กางเกงไปทำงานก็ได้ ไม่ว่าอะไร นั่นแหละตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้สวมใส่กระโปรงอีกเลย
ประหยัดเงินไม่ต้องซื้อถุงน่อง ไม่ต้องเสียเวลาซักด้วย
อยู่มาวันหนึ่ง
เกิดเปลี่ยนใจ ไม่อยากใช้ชีวิต “โสด” ไปจนตาย เพราะอายุอานามก็ขยับใกล้เกษียณเข้าไปทุกขณะ...เหมือนฟ้าจะปรานี
(หลังจากปล่อยให้หา “ผู้ชาย” อยู่เป็นปี) ส่งชายคนหนึ่งจากคนละฟากฟ้ามาให้ และได้ตกร่องปล่องชิ้นแต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อย
แต่..แต่ว่า....หนุ่มผู้นี้บอกว่า “ผมไม่ชอบผู้หญิงที่มีขนขากับขนจั๊กแร้” ว้าว! โชคดีที่เราไม่มีขนใต้วงแขนมานานเกือบสิบปี
แต่ว่า...ขนขายังอยู่ครบ....เอาไงดี...ต้องวิ่งโร่หาซื้อแว็กซ์ และไปได้ที่ แพลทตินั่มประตูน้ำ
(พอดีไปหาซื้อกางเกงยีนส์)...ราคา”ฮันนี่แว็กซ์” ขวดหนึ่งไม่ใช่ถูก ๆ
ถ้าจำไม่ผิดเหมือนว่าจ่ายไป เกินสองร้อยอ่ะ (ร้อยห้าสิบก็แพงแล้วสำหรับเรานะ)
เราว่าการถอนขนขาด้วยวิธีแว็กซ์
นี่ถึงมันจะเจ็บแต่ก็ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว ข้อดีคือ ขนใหม่จะขึ้นช้า ขนบางเส้นที่อ่อนแออาจสูญพันธุ์ไปเลย
(สังเกตเอาว่ามันหายไป) แต่ข้อเสียก็มี คือจะเกิด “ขนคุด” เพราะขนบางเส้นมันไร้ความสามารถที่จะโผล่ให้ทะลุหนังชั้นนอก
เวลาเกิดขนคุด มันจะอักเสบเป็นรอยแดงรอบ ๆ รูขุมขน และทำให้รู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ
แล้วก็จะเกา ๆ ๆ จนถลอก ถ้ารำคาญมากนักก็จะใช้ปลายแหนบขุด ๆ เขี่ย ๆ
จนผิวหนังเปิดอก “อัญเชิญ” ขนเส้นนั้นให้โผล่ขึ้นมา และถ้ามันยาวพอที่แหนบคีบติดก็ถอนมันเดี๋ยวนั้นเลย....
หลายสัปดาห์ก่อนได้เจอบทความหนึ่ง ที่ถูกอกถูกใจยิ่งนัก DIY hair removal จึงอยากจะเอามาเล่า
เผื่อว่าหนู ๆ สาว ๆ ที่นิยมซื้อแว็กซ์มา “ถอนขน” ขาตัวเอง เกิดสนใจใคร่จะลอง มันทั้งประหยัดทรัพย์ในกระเป๋า
ประหยัดเวลาไม่ต้องย้ายก้นไปนั่งรอคิวที่ร้านเสริมสวย....เริ่มเลยน๊า...
วิธีทำซูการ์แว็กซ์ (Sugar Wax)
- ส่วนผสมที่ต้องใช้
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ (เปรี้ยวปากขึ้นมาเชียว)
- น้ำตาล 1 ถ้วย
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
- เศษผ้า Cotton ตัดเป็นชิ้น กว้าง 2.5 นิ้ว ยาว 7 นิ้ว จำนวน 6 ชิ้น (ยาวกว่าไม่เป็นไร แต่ถ้าสั้นกว่าอาจทำให้ดึงได้พื้นที่สั้น ๆ เพราะต้องเผื่อขอบผ้าไว้จับกระตุก)
- วิธีทำ
ผสมน้ำมะนาว และน้ำตาลในหม้อใบน้อย เอาขึ้นตั้งไฟเคี่ยวโดยใช้ไฟกลาง-ต่ำ
กวนไปเรื่อย ๆ ช้า ๆ จนกระทั่งเดือด จึงหรี่ไฟให้ต่ำสุดแล้วปล่อยให้อุ่นต่อไปจนเป็นเนื้อเนียนเป็นสีทอง
ไม่ต้องใส่ใจเวลาและอุณหภูมิ สามารถเคี่ยวไปจนกลายเป็นสีทองเข้ม ๆ ยิ่งดี
วิธีใช้ : ใช้เมื่อเย็นตัวแล้ว
- ก่อนอื่นต้องล้างขาให้สะอาดปราศจากเหงื่อไคล ไขมัน ซะก่อน และขัดเบา ๆ เพื่อให้ได้ผลดี เสร็จซับผิวให้แห้ง
- โรยแป้งข้าวโพด บาง ๆ ลงบนผิว เกลี่ยให้ทั่ว
- ตักแว็กซ์ทาลงบนขาขนาดพื้นที่เท่าเศษผ้าหนึ่งชิ้น เกลี่ยเนื้อแว็กซ์ให้ทั่ว
- วางเศษผ้าปิดทับ และกดลงไปทั่วแผ่น
- กระตุกปลายผ้าจากด้านล่างขึ้นด้านบนอย่างรวดเร็ว (กระตุกครั้งเดียวเร็วแบบย้อนแนวขน) ความเหนียวของแว็กซ์ จะติดขนดึงให้หลุดออกมา
- ทำซ้ำ ทีละครั้ง ๆ จนหมด
- นำขาของตัวเองไปล้างน้ำ ล้างง่ายไม่ต้องกังวล อย่าลืมล้างเศษผ้าด้วยนะ (แล้วเก็บไว้ใช้ได้อีกชั่วลูกหลานละเลย)
- บำรุงผิวด้วย Oil หรือ Baby Oil ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรบางครั้งเราก็ลืมที่จะใช้เหมือนกัน
- ถ้ามีแว็กซ์เหลือจากการใช้ ก็สามารถเก็บใส่ภาชนะที่ปิดฝาแน่น ๆ ใส่ตู้เย็นไว้ใช้ครั้งหน้าได้
“เคล็ดลับ” ของความเหนียว น่าจะเป็นเพราะการโรยแป้งข้าวโพดนี่เอง
ที่คิดอย่างนี้ก็เพราะว่าสินค้าที่เราเคยซื้อมาใช้ ไม่มีแป้งข้าวโพดใส่มาด้วย
และไม่ได้บอกว่าควรใช้....นั่นซิ! เราว่าบางยี่ห้อหลังเปิดใช้แล้วยังไม่หมด พอเอามาใช้อีกครั้งมันไม่ค่อยเหนียวเหมือนตอนใช้ครั้งแรก
ขนไม่ติดผ้าออกมาเลย ต้องทิ้งไปเลย)
เป็นไงจ๊ะสาว ๆ?
ง่ายซะไม่มี.....ที่เล่าวิธีมาให้ฟังนี่ คนเขียนก็ยังไม่ได้ลองทำนะ
เหตุผลน่ะมี...คือตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2015 ได้แว็กซ์ขนขาก่อนเข้าพิธีแต่งงาน
แล้วก็ไม่ได้แว็กซ์อีกเลยจนถึงเดี๋ยวนี้ (หกเดือน) เพราะกว่าขนจะขึ้นก็สอง-สามเดือน
ซึ่งเดินทางมาอยู่เอมริกาแล้ว (แว็กซ์ที่เหลือก็ไม่ได้หยิบใส่กระเป๋ามาด้วย) ขนขามันก็ขึ้นนิด
ๆ หน่อย ๆ ไม่พร้อมกัน ดังนั้นต้องพึ่งพา “แหนบ” แต่ถ้าจะใช้แว็กซ์ จริงๆ ก็ต้องปล่อยให้ขนขายาวประมาณ
1 ซม. ถึงจะติดผ้าออกมา
เพราะขนเส้นใหญ่+แข็งแรงมว๊ากกว่าปกติ....เอาเป็นว่าใครลองทำแล้วได้ผลเป็นไงช่วยส่งข่าวหน่อยละกันนะคะ....
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
ครีมแว๊กซ์ขนทำเองง่าย ง่าย ได้ที่บ้าน
ReplyDeletehttp://ybbwaxshop.com/honey_cold_wax/หรือ http://goo.gl/SG6fST
ID:yoyokra
Tel: 089-799-2922