นับวันในตลาดสินค้าบริโภคประเภท
โยเกิร์ต ยิ่งเติบโตมากขึ้น และมากขึ้น จากที่เคยมีผู้ผลิตเพียงหนึ่งหรือสองแบรนด์
ตอนนี้มากกว่าสิบ แบรนด์ และแต่ละแบรนด์ก็ผลิตออกมาหลากรส
กลิ่น สี เท่าที่นับได้จากเว็บขายออนไลน์ของเทสโก้โลตัส มี Nestle, Activia, Betagen, Caroline, Dairy Home, Danone,
Dutch Mill/ Dutchie, Foremost, Meiji,
Paigen, Richesse, Yoplait.


เป็นที่น่าสังเกตว่า แบรนด์ที่เข้าตลาดยุคหลัง ๆ
ตั้งราคาขายแพงกว่า “รุ่นพี่” ซะอีก แค่เพียงใช้กลิ่น สี
ของผลไม้เพิ่มเข้าไปและเขียนโฆษณา ให้ “โดนใจสาว ๆ” ทุกวัย ถึงจะขายในราคาที่สูงกว่า
แม้เพียงจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในตลาดได้.......
การแข่งขันสูงขนาดนี้แปลว่า กำไรน่าจะงดงาม.......
อาหารการกินในต่างแดนก็สุดแสนจะแพงเมื่อเทียบกับเงินบาทที่เรากว่าจะหาได้ในเมืองไทย
อยู่อเมริกา จะกินโยเกิร์ต ต้องมีอย่างน้อยสองเหรียญ เท่ากับเงินไทย 66 บาท นี่ถ้าซื้อที่ประเทศไทยเราได้ยกแพ็ค
กินกันไปเป็นอาทิตย์เลย วันหนึ่งมานั่งคิดว่า เราน่าจะสามารถทำโยเกิร์ตเองได้
.....มือไวเท่าความคิด เรียกใช้ Mr. Google ไม่นานก็ได้พบว่า ความจริงแล้วเราสามารถทำโยเกิร์ตไว้รับประทานเองที่บ้านได้ด้วยตัวเอง
โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องทำโยเกิร์ต ขอเพียงแต่ในครัวของเรามี Heating pad หรืออะไรที่ทำงานได้คล้าย ๆ กัน อีกอันคือ เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ
แบบจุ่มหรือแทงลงในอาหาร/เครื่องดื่ม หรือแบบคลิปหนีบก็ได้...แค่นี้เอง
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่โปรดปรานการบริโภคโยเกิร์ตทุกวัน สูตร โฮมเมดโยเกิร์ต นี้เหมาะจริง
ๆ คุณจะได้รสชาติดีกว่า และไม่ใส่สารเคมีใด
ๆ เจือปน ไร้สารกันบูด แถมประหยัดทรัพย์ในกระเป๋า และยังช่วยลดขยะ ลดการสร้าง
“คาร์บอนไดอ็อกไซด์” ทางอ้อมอีกด้วย......มาดูกันเลย
สูตรโฮมเมดโยเกิร์ต
เวลาที่ใช้ในการผลิต: 7
ชั่วโมง 25 นาที
โดยประมาณ
ส่วนผสมที่ต้องการ:
1. นม 1.5 แกลลอน (จะได้โยเกิร์ต 1.5 แกลลอน)
2. Plain Yoghurt หรือ
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2-3 ช้อนโต๊ะ (สำหรับเป็นตัว starter)
อุปกรณ์ที่ต้องการ:
1. หม้อ ขนาดใหญ่ 1 (พร้อมฝาปิด)
2. ทัพพี/พาย 1 (ใช้ไดทั้งพลาสติกและโลหะ)
3. Thermometer 1 (แบบจุ่ม หรือแบบคลิปหนีบก็ได้)
4. Heating pad 1
วิธีทำ:
1. ใส่นมลงไปในหม้อ
นำไปต้มให้เดือด หมั่นคนอย่าให้นมจับเป็นก้อนที่ก้นหม้อ
หรือเป็นแผ่นฟิล์มที่ผิวหน้า จุ่มเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิให้ได้ 185°F (85°C) ยกลง
2. จากนั้นทำให้นมเย็นตัว
ด้วยการแช่หม้อลงในน้ำเย็น และคอยอย่าให้นมจับตัว และคอยสังเกต
3. เมื่ออุณหภูมิลดลงถึง
110°F (40°C) ให้เติมโยเกิร์ตลงไป กวนให้ละลายดี แล้วยกหม้อตั้งบน Heating pad (ถ้าเป็นแบบมีระดับอุณหภูมิให้เลือก ให้เปิดอุณหภูมิไปที่ Medium) ปิดฝาหม้อ ทิ้งไว้ 7 ชั่วโมง อย่าไปยุ่งกับมัน
4. ครบ 7 ชั่วโมง ให้ยกลงจาก Heating pad แล้วกวน ๆ
สองสามครั้ง นำไปวางในตู้เย็น ทิ้งไว้ให้เย็น พร้อมรับประทาน
โยเกิร์ตที่ได้เป็นรสธรรมชาติ
คุณสามารถเพิ่มเติมรสชาติที่ต้องการแต่ละครั้ง ด้วยการเติม น้ำผลไม้ที่ชื่นชอบ
หรืออาจผสม กับผลไม้สด ๆ ที่อุดมด้วยวิจะตามิน และไฟเบอร์ ครบ เช่น สตรอเบอร์รี่
เชอร์รี่ บลูเบอร์รี่ องุ่น ฯลฯ
การมีโยเกิร์ตไว้ประจำในตู้เย็น
ยังสามารถใช้ทำ ขนมหวาน หรือ เครื่องดื่มอร่อย ๆ สำหรับเด็ก ๆ หรือเพื่อน ๆ
ญาติที่แวะมาเยือนโดยไม่ทันตั้งตัวได้อีกด้วยค่ะ.....
ทำแล้วผลลัพธ์เป็นยังไง ช่วยแชร์กลับด้วยนะค๊า...
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment